มาดูเครื่องดนตรีประเภทดีด
1.) ลิวท์ ( Lute )

เป็นเครื่องดนตรีประเภทดีด ที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ยุคกลาง (Medieval) มีลักษณะกลมรี คล้ายผลลูกแพร์ผ่าครึ่ง โดยปกติทั่วไปจะมีตั้งแต่ 11-21 สาย นิยมใช้เล่นได้ทั้งบรรเลงเดี่ยว หรือกลุ่มวงดนตรี ลิวท์ มีบทบาทพอสมควรในยุคบาโร้ค โดยเฉพาะในดนตรีราชสำนักฝรั่งเศสในยุคบาโร้ค มีคีตกวี ที่เป็นนักเล่นลิวท์โดยตรง อาทิเช่น Charles Mouton หรือแม้แต่ คีตกวีคนอื่นก็ยังประพันธ์เพลงสำหรับ ลิวท์ เช่น J.S.Bach ประพันธ์ Lute Suite จำนวนมาก หรือ Antonio Vivaldi ก็ประพันธ์ Lute Concerto ที่มีชื่อเสียง เป็นต้น

2.) กีตาร์ในยุคบาโร้ค ( Baroque Guitar )

มีพัฒนาการมาจากเครื่องดนตรีสเปน ที่เรียกว่า วิฮวลล่า ( Vihuela ) โดยปกติแล้ว กีตาร์ในยุคบาโร้ค ไม่ได้เป็นเครื่องดนตรีที่ใช้เล่นร่วมกับเครื่องดนตรีอื่น ๆ ในวงดนตรี แต่มักใช้เล่นเป็นการส่วนตัว เพื่อการผ่อนคลายในหมู่วงศาคณาญาติมากกว่าจะเป็นการเล่นแบบเอาจริงเอาจัง

ภาพ วิฮวลล่า ( Vihuela ) หรือ กีตาร์สเปนโบราณ เป็นต้นแบบของกีตาร์ในยุคบาโร้ค

Baroque Guitar (แบบที่มีพัฒนาการมาจาก Vihuela แล้ว) จะเห็นได้ว่ามีรายละเอียดการตกแต่งประดับประดาในส่วนของช่องเสียงจำนวนมาก อันแสดงให้เห็นถึง อิทธิพลของช่างกีตาร์สาขาฝรั่งเศส เพราะในสมัยคริตส์ศตวรรษที่ 17 ฝรั่งเศสเป็นผู้นำด้านการผลิตกีตาร์ยุคบาโร้ค


(3.) ธีออร์โบ ( Theorbo )

ธีออร์โบ หรือ บางครั้งก็เรียกว่า อาร์คลิวท์ ( Archlute ) เป็นเครื่องสายประเภทดีด ที่อยู่ในกลุ่มประเภทให้เสียงเบส (Bass) มีบทบาทมากที่สุดในยุคบาโร้ค สามารถเป็นได้ทั้งเครื่องดนตรีนำเล่นเดี่ยว และเป็นส่วนหนึ่งของวงเครื่องสาย โดยจะเล่นในแนวเดินเบส หรือ บาสโซ คอนตินูโอ (Basso Continuo) ร่วมกับ เชลโล่ (Violoncello) หรือ ฮาร์ปซิคอร์ด (Harpsichord) โดยเฉพาะในวงดนตรีบาโร้คแบบฝรั่งเศส เรียกว่า ธีออร์โบ เป็นเอกลักษณ์ของดนตรีบาโร้คในฝรั่งเศสเลยทีเดียว

(4.) แมนโดลิน (Mandolin)

เป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านที่เป็นที่นิยมของอิตาลี เป็นเครื่องสาย ประเภทดีด ชนิดสายคู่ คีตกวีในยุคบาโร้ค ที่นำเอาแมนโดลิน มาประพันธ์เพลงที่มีชื่อเสียง คือ Antonio Vivaldi เป็น Mandolin Concerto ที่มีชื่อเสียงจำนวน 3 บท

(5.) ฮาร์ป (Harp)

ในยุคบาโร้ค ส่วนใหญ่แล้วฮาร์ปเป็นเครื่องดนตรีในราชสำนัก สำหรับพวกธิดาของผู้ดีมีสกุล ที่เอาไว้เรียนหรู ๆ เท่านั้น มากกว่าที่จะใช้เล่นแบบเอาจริงเอาจัง และไม่นิยมใช้ประกอบกับวงเครื่องสาย เพราะมีเสียงเบา และถูกกลบเสียงได้ง่าย แต่ก็มีคีตกวีบางคน ประพันธ์บทเพลงสำหรับฮาร์ป โดยเฉพาะ เช่น Georg Frideric Handel ประพันธ์ Harp concerto ไว้จำนวนหนึ่ง เป็นต้น